เรียนรู้การเงิน

ส่องเทรนด์ Digital Marketing ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงปี 2024

อัพเดทวันที่ 12 มี.ค. 2567

ส่องเทรนด์ Digital Marketing ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงปี 2024

การเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจนั้นเข้มข้นและรวดเร็วมากขึ้นในทุก ๆ ปี และนั่นทำให้การจะอยู่รอดของธุรกิจในการแข่งขันที่ร้อนแรงนั้น จำเป็นจะต้องปรับตัวและหมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ อย่างในปี 2024 นี้ก็น่าจะมีการพัฒนาหลายอย่างของเทคโนโลยีที่จะมีผลกระทบกับธุรกิจ และนั่นทำให้ Digital Marketing ของ SME เองก็ต้องขันน็อตเตรียมพร้อมกันแต่เนิ่น ๆ นั่นเอง


1. การแข่งขันด้วยข้อมูล (Data-Driven Marketing)

พื้นฐานสำคัญอย่างหนึ่งของ Digital Marketing คือการที่เทคโนโลยีทำให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลและประมวลผลได้มากกว่าเดิม SME สามารถรู้ความเป็นไปหลายอย่างของธุรกิจได้มากขึ้น เช่น การเข้าถึงลูกค้า ปฏิกิริยาโต้ตอบของลูกค้ากับโฆษณา การรู้ช่องทางที่ลูกค้าเข้ามาติดต่อกับธุรกิจ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ทำให้ SME ที่เก่ง จะคว้าโอกาสในการใช้ข้อมูลทางการตลาดมาเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจมากขึ้น ผ่านการใช้เครื่องมืออย่างเช่น CRM เพื่อบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือการนำข้อมูลของโฆษณาออนไลน์มาเรียนรู้และปรับให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

คำแนะนำ : SME ควรดูว่ามีส่วนใดของธุรกิจที่เราอยากปรับปรุงและพัฒนาโดยผ่านการ “เข้าใจข้อมูล” เช่นการลงโฆษณา การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า การดำเนินการ ฯลฯ แล้วเริ่มสำรวจเครื่องมือที่จะสามารถนำมาผนวกเข้ากับกระบวนการทางธุรกิจและช่วยแก้ไขจุดดังกล่าวได้



2. การแข่งขันด้วยคอนเทนต์ (Content Marketing)

เราเห็นได้ว่าแพลตฟอร์มในปัจจุบันนี้มีมากมาย และได้รับความนิยมในรูปแบบที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Facebook Instagram TikTok YouTube และ X (Twitter) และนั่นทำให้บริบทการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายมีรูปแบบที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น การแข่งขันสำคัญจึงต้องดูว่าธุรกิจใดสามารถใช้โอกาสในการสื่อสารได้ดีกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผลิตคอนเทนต์ที่น่าสนใจ สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ และการเผยแพร่คอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพตามช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายใช้ แต่ด้วยความหลากหลายของช่องทางนั้น จะทำให้หลายธุรกิจประสบปัญหากับขีดจำกัดในการผลิตคอนเทนต์ และกลายเป็นความท้าทายในการจะหาจุดสมดุลที่เหมาะสม ประกอบกับการเลือกวิธีการที่เกิดประสิทธิภาพที่สุด

คำแนะนำ : SME ควรมีกลยุทธ์การตลาดที่ชัดเจนว่ากลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคือใครบ้าง และออกแบบกลยุทธ์การสื่อสารให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การตลาดนั้นให้มากที่สุด เพื่อให้การสร้างสรรค์คอนเทนต์ใด ๆ เกิดผลลัพธ์ที่สะท้อนกลับไปยังวัตถุประสงค์สำคัญของธุรกิจ



3. การริเริ่มใช้ปัญญาประดิษฐ์ในธุรกิจ (AI)

เทรนด์ใหญ่ที่หลายคนจับตามองคือ การเข้ามาของเทคโนโลยี AI ในระดับที่คนทั่วไปสามารถใช้งานได้แล้ว ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจในระดับ SME ซึ่ง AI นี้จะเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหลายอย่างให้กับธุรกิจ เช่น การสร้างคอนเทนต์เพื่อใช้ในธุรกิจ การสร้างงานเอกสารต่าง ๆ การช่วยคิดงานและหาไอเดีย ฯลฯ และนั่นสามารถทำให้หลายธุรกิจมีโอกาสเพิ่มศักยภาพของธุรกิจได้มากแบบก้าวกระโดดผ่านเครื่องมือที่ใช้ต้นทุนไม่สูงมาก สิ่งที่น่าจับตามองคือ ธุรกิจใดจะรีบเรียนรู้และนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพกับธุรกิจได้เร็วกว่ากัน เพราะถ้าสามารถเพิ่มศักยภาพธุรกิจได้มากและเร็วขึ้นเท่าไร ก็จะสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้นั่นเอง

คำแนะนำ : SME ควรรีบศึกษาและดูว่าเครื่องมือ AI ที่เปิดให้ใช้ในปัจจุบันมีอะไรบ้างที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์กับธุรกิจได้ โดยอาจจะเริ่มจากเครื่องมือยอดนิยมอย่าง ChatGPT และ Bard ก่อนก็ได้ และดูว่าเราจะประยุกต์ใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการทำงานได้อย่างไร ที่หยิบยกมาพูดในบทความนี้ เป็นพื้นฐานสำคัญที่ผู้เขียนมักจะหยิบมาอธิบายอยู่เสมอ เพราะมองว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญและจะส่งผลกับธุรกิจค่อนข้างมาก หากสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่าการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ นั้นรวดเร็วมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งธุรกิจก็ควรจะหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อไม่ให้พลาดพลั้งและกลายเป็นธุรกิจที่ก้าวไม่ทันกับกระแสใหม่ที่เข้ามาอยู่เรื่อย ๆ นั่นเอง


ที่มา: กรุงไทย SME FOCUS Issue 41 คอลัมน์ Marketing Strategy 

นอกจากนี้พบกับบทความดีๆ ในหัวข้อ "Digital Banking" จาก E-Magazine กรุงไทย SME FOCUS ฉบับเดือน กุมภาพันธ์-เมษายน 2567
1. ช่องทาง Website : Krungthai SME
2. ช่องทาง Application : Meb
3. ช่องทาง Application : Okkbee

#เคล็ดลับธุรกิจ #กรุงไทย #Krungthai #DigitalMarketing #SMEFocus #KrungthaiSME #กรุงไทยSME #พลิกธุรกิจสู่โลกดิจิทัล